การจ้างงานคนพิการ ตามมาตรา 33: สิทธิที่นายจ้างและคนพิการควรทราบ

การจ้างงานคนพิการ ตามมาตรา 33: สิทธิที่นายจ้างและคนพิการควรทราบ

มาตรา 33 ของพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 เป็นมาตราสำคัญที่กำหนดให้หน่วยงานของรัฐและสถานประกอบการเอกชนต้องรับคนพิการเข้าทำงาน เพื่อส่งเสริมให้คนพิการมีโอกาสทางเศรษฐกิจและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

สาระสำคัญของมาตรา 33

  • หน้าที่ของนายจ้าง: นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการที่มียอดจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ต้องรับคนพิการเข้าทำงานในอัตราส่วน 100:1 (ทุกๆ ลูกจ้างที่ไม่ใช่คนพิการ 100 คน ต้องรับคนพิการ 1 คน)
  • ประเภทของงาน: คนพิการที่รับเข้าทำงานต้องเป็นคนที่สามารถปฏิบัติงานได้ตามลักษณะงานที่ได้รับมอบหมาย
  • ความเท่าเทียม: คนพิการที่ได้รับการจ้างงานต้องได้รับค่าจ้างและสวัสดิการต่างๆ เท่าเทียมกับลูกจ้างคนอื่นๆ
  • การปรับปรุงสภาพการทำงาน: นายจ้างต้องปรับปรุงสภาพการทำงานให้เหมาะสมกับความพิการของลูกจ้าง เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เหตุผลที่ต้องมีมาตรา 33

  • ส่งเสริมความเท่าเทียม: เพื่อให้คนพิการมีโอกาสเข้าถึงการทำงานเท่าเทียมกับคนทั่วไป
  • สร้างสังคมที่เอื้อต่อคนพิการ: การจ้างงานคนพิการเป็นการสร้างสังคมที่เปิดกว้างและยอมรับความแตกต่าง
  • เพิ่มศักยภาพของคนพิการ: การมีงานทำทำให้คนพิการมีรายได้ มีความมั่นคงในชีวิต และสามารถพึ่งพาตนเองได้

ข้อดีของการจ้างงานคนพิการ

  • เพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน: คนพิการแต่ละคนมีความสามารถและทักษะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน การจ้างงานคนพิการจึงเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานขององค์กร
  • สร้างภาพลักษณ์ที่ดี: การจ้างงานคนพิการแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและความเท่าเทียม
  • สร้างแรงบันดาลใจ: การจ้างงานคนพิการเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงานคนอื่นๆ และสังคม

สิทธิของคนพิการเมื่อได้รับการจ้างงาน

  • สิทธิในการได้รับค่าจ้าง: มีสิทธิได้รับค่าจ้างที่เท่าเทียมกับลูกจ้างคนอื่นๆ ที่ปฏิบัติงานในลักษณะงานเดียวกัน
  • สิทธิในการได้รับสวัสดิการ: มีสิทธิได้รับสวัสดิการต่างๆ เช่น การประกันสังคม โบนัส ค่าล่วงเวลา เท่าเทียมกับลูกจ้างคนอื่นๆ
  • สิทธิในการได้รับการฝึกอบรม: มีสิทธิได้รับการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะในการทำงาน
  • สิทธิในการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย: มีสิทธิทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับความพิการ

หากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามมาตรา 33 จะมีผลอย่างไร

  • ถูกดำเนินคดี: นายจ้างอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
  • เสียค่าปรับ: นายจ้างอาจถูกปรับตามที่กฎหมายกำหนด
  • เสียภาพลักษณ์: นายจ้างอาจเสียภาพลักษณ์ในสายตาของสังคม

สรุป

มาตรา 33 เป็นกฎหมายที่สำคัญในการส่งเสริมให้คนพิการมีโอกาสในการทำงานและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การปฏิบัติตามมาตรา 33 จึงเป็นหน้าที่ของนายจ้างทุกคน และเป็นการสร้างสังคมที่เท่าเทียมและเปิดโอกาสให้กับทุกคน

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ หรือสอบถามได้ที่สมาคมคนพิการภาคตะวันออก www.ead.or.th Line : @eadt โทร 08-1669-1111

Share :

Scroll to Top
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.