วัดไซส์ตัวเอง
วิธีวัดขนาดตัว ใช้สายวัด วัดโดยไม่รัดแน่นหรือหลวมจนเกินไป
รอบอก : วัดบริเวณรอบอกที่กว้างที่สุด
เอว : ยืนตัวตรง ไม่เกร็งหน้าท้อง ให้วัดส่วนที่แคบที่สุด หรือส่วนที่คอดที่สุดของลำตัว ก็คือช่วงเอว หรือวัดบริเวณสะดือ
สะโพก : ยืนตัวตรง วัดส่วนที่กว้างที่สุดหรือส่วนที่ผายที่สุด คือช่วงสะโพก
วัดขนาดเสื้อผ้า
เสื้อ : ในการเลือกซื้อเสื้อ ให้เน้นดูบริเวณช่วงอกเป็นหลัก โดยวัดบริเวณที่กว้างที่สุดของหน้าอกด้านหน้าแล้วคูณสอง ก็จะได้รอบอกที่รวมทั้งด้านหน้าด้านหลัง แต่ถ้าเสื้อบางตัว ต้องวัดช่วงบ่าหรือไหล่ด้วย ให้วัดความกว้างของไหล่จากซ้ายไปขวา ส่วนความยาวแขนให้วัดความยาวจากหัวไหล่ด้านนอกถึงปลายแขน
กางเกง : วัดรอบเอวและสะโพกเป็นหลัก โดยวัดส่วนเอวด้านหน้าแล้วคูณสอง ก็จะได้รอบเอวที่รวมด้านหน้าหลัง ส่วนการวัดสะโพกให้วัดส่วนที่กว้างที่สุดแล้วคูณสองเช่นเดียวกัน ถ้าเป็นกางเกง free size ที่เอวเป็นแบบยางยืดให้ดูที่สะโพกเป็นหลัก
กระโปรง : ให้วัดส่วนเอวตรงที่แล้วคูณสอง ส่วนสะโพกให้วัดสะโพกแล้วคูณสองเช่นกันกับการวัดกางเกง ความยาวกระโปรงให้วัดความยาวด้านหน้าของกระโปรงจากเอวจนถึงชายกระโปรง
เดรส : โดยเดรสเข้ารูปให้วัดรอบอกและสะโพกเป็นหลัก การวัดเดรสให้เราวัดรอบอก เอว สะโพก และความยาวของชุดเพิ่มเติมด้วย ส่วนเดรสทรงปล่อย เน้นดูรอบอกเป็นหลัก
ไซส์มาตรฐานทั่วไป
Size S อก : 32-33 เอว : 25-26 สะโพก : 34-36
Size M อก : 34-35 เอว : 27-28 สะโพก : 36-37
Size L อก : 36-37 เอว : 30-31 สะโพก : 38-39
Size XL อก : 38-39 เอว : 32-33 สะโพก : 40-41
Size XXL อก : 40-41 เอว : 34-35 สะโพก : 42-43
ภาพบรรยากาศการวัดตัวของคนพิการและปผู้ดูแลคนพิการที่เข้าร่วมโครงการฝึกงานมาตรา 35 หลักสูตรช่างตัดเย็บเสื้อผ้า ระกดับกลาง 600 ชั่วโมง 6 เดือน ได้รับการสนับสนุนโดย โลตัส บริษัทเอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด สมาคมคนพิการภาคตะวันออก และสมาคมคนพิการด้านการเคลื่อนไหวจังหวัดบุรีรัมย์ ณ ศูนย์ฝึกอาชีพชั่วคราว เทศบาลตำบลสองชั้น อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์